วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

เสียงส่วนใหญ่ คือ ความถูกต้อง

เสียงส่วนใหญ่ คือ ความถูกต้อง
             หัวข้อนี้ทำให้ฉันนึกถึงการปกครองของประเทศไทย ซึ่งฟังเสียงส่วนใหญ่ในการตัดสินเรื่องทุกอย่างที่หาทางแก้ไขด้วยวิธีอื่นไม่ได้ คือการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปไตย คือหลักเสียงข้างมาก ยึดถือ หลักนิติศาสตร์ หลักรัฐศาสตร์ เป้าหมายเพื่อความเท่าเทียม และทั่วถึง และตอบโจทย์...ของทุกๆคนในระบอบ
และ หลักเสียงส่วนใหญ่ คือ เสียงที่มากที่สุด จะเป็นผู้ตัดสินใจ หรือ มีสิทธิ์สมบูรณ์ ไม่ได้แปลว่าเท่าเทียม ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่มาจากเสียงส่วนใหญ่จะถูกต้อง เพราะฉันคิดว่ามนุษย์ทุกคนมีความคิดเพื่อผลประโยชน์ของตนเองทั้งนั้นไม่ว่าจะชนชั้นหรือชนชาติใด ฉันจะยกตัวอย่างอธิบายง่ายๆเช่น ชาวชนบทรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องเสรีภาพที่พวกเขาควรได้รับในการดำเนินชีวิตหรือการประกอบอาชีพมาประท้วงหน้ารัฐสภา เราก็เปรียบได้ว่าชาวชนบทเป็นเสียงส่วนน้อย ส่วนคนในรัฐสภาเป็นเสียงส่วนใหญ่ เราไม่รู้หรอกว่าเสียงไหนถูก แต่ฉันคิดว่าเสียงส่วนใหญ่มีอำนาจที่จะทำให้เสียงส่วนน้อยสิ้นเสียงลงเช่น การยัดเงินเพื่อปิดปาก หรือขู่ทางอ้อม นี่ก็เป็นปัญหาทางการเมืองอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งเราต้องร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน แต่เราก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเสียงส่วนใหญ่นั้นผิดจริงหรือเปล่า เพราะคนยากที่มองโลกสองแง่ส่วนมากก็จะมองแค่แง่ที่ตนเองชอบหรือเข้าข้างเท่านั้น 
              อาจจะยกตัวอย่างด้านศาสนา คือ ถ้ามีคนอยู่ 20 คน แล้วให้ทั้ง 20 คนตอบคำถามว่า"อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้าคือใคร  ระหว่าง พระมหาโมคคัลลานะ กับ พระสารีบุตร"ถ้า 19 คนตอบว่า พระสารีบุตร คืออัครสาวกเบื้องซ้าย   และอีก 1 คนตอบว่า พระมหาโมคคัลลานะ คืออัครสาวกเบื้องซ้าย ผู้ที่ตอบเหมือนกันทั้ง 19 คน ถือว่าเป็นเสียงข้างมากตอบผิดหมด และมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่ตอบถูก คือตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าเสียงข้างมากไม่จำเป็นต้องถูกต้องหรือชนะเสมอไป


สำหรับพรรคการเมืองหนึ่งถ้าเขาเป็นเสียงส่วนน้อย เขาจะเรียก เสียงข้างมาก ว่าผด็จการรัฐสภา

แต่ถ้าเขาได้เป็นระฐบาล เขาจะเรียกเสียงข้างมากว่า กระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย

ใครย้ายเข้าพรรคเขา เขาจะเรียกว่า ผู้มีอุดมการณ์ร่วมกัน
ใครย้ายออกจากพรรค เขาเรียก ถูกซื้อตัว

   มีคำพูดของนักการเมืองพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
           เนื่องจากการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีการเลือกตั้ง ซึ่งในระบบรัฐสภาที่มี ส.ส.หรือ ส.ว.เป็นตัวแทนของประชาชน ที่มีการถกเถียงปัญหาต่างๆ ในสภาฯ และมีการออกเสียงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ต้องยอมรับในเสียงข้างมากว่าถูกต้อง หากเสียงข้างมากไม่ถูกต้อง ส.ส.ทั้งหมด ไม่ว่าตนเองหรือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ในตำแหน่งผู้แทนสภาฯ ไม่ได้ เพราะ ส.ส.ได้รับการคัดเลือกมาจากเสียงข้างมาก จึงอยากให้ยอมรับในเสียงข้างมาก
          ฉะนั้น ถ้านักการเมือง อ้างเสียงส่วนใหญ่ในระบอบประชาธิปไตย ไปทำสิ่งที่ขัดต่อจริยธรรม ขัดต่อกฏหมาย เช่น ..... ให้พาสปอร์ตนักโทษหนีคดีอาญา .... แก้รัฐธรรมนูญ ล้างผิดให้นักโทษหนีคดีอาญา.......ให้บำเหน็ดคนชั่วเผาบ้านเผาเมืองด้วยภาษีประชาชน..... ถ้าทำเฉกเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย... ก็ต้องเรียกว่าระบอบเสียงข้างมาก...ที่มาจากคนส่วนใหญ่ที่ไม่เสียภาษีเงินได้ และ ด้อยการศึกษา..... 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น